The Moon that Embrace The Sun “ลิขิตรักตะวันและจันทรา”

The Moon that Embrace The Sun (해를 품은 달)

“โชซอนจะมีดวงอาทิตย์ได้เพียงหนึ่งดวง และดวงจันทร์ก็จะเป็นผู้โอบอุ้มดวงอาทิตย์”

คอซีรีส์หลายคนเมื่อได้ยินประโยคข้างต้น ก็คงทราบดีว่ามาจากซีรีส์เรื่อง The Moon that Embrace The Sun ซีรีส์เกาหลีแนวย้อนยุคเรื่องเยี่ยม ที่บอกเล่าเรื่องราวความรักและการพลัดพรากระหว่างกษัตริย์กับนางอันเป็นที่รัก และเป็นหนึ่งในผลงานสร้างชื่อของนักแสดงหนุ่ม คิมซูฮยอน นอกจากความรักระหว่างพระเอกกับนางเอกที่สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วเอเชียแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ยังมีความรักในรูปแบบอื่นและสอดแทรกแง่คิดดี ๆ มากมาย มาร่วมกันย้อนรำลึกความประทับใจกับซีรีส์เรื่องเรื่องนี้ไปด้วยกันนะคะ

The Moon that Embrace The Sun เป็นเรื่องราวความรักที่ต้องเลือก ระหว่างการปกป้องคนที่รักกับการปกป้องในความถูกต้อง ไม่ว่าจะย้อนกลับมาดูกี่ครั้ง ซีรีส์เรื่องนี้ก็สร้างความประทับใจให้เราทุกครั้ง เพราะนอกจากความรักระหว่างพระเอกกับนางเอกที่ทุกคนจะได้รับชมกันอย่างเต็มอิ่มแล้ว ซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังนำเสนอความรักในรูปแบบอื่นด้วย

ความรักระหว่างเพื่อน

องค์ชายยางมยอง (รับบทโดย จองอิลอู) ฮอยอม (รับบทโดย ซงแจฮี) อุน (รับบทโดย ซงแจริม) ทั้ง 3 คนเป็นเพื่อนรักที่เติบโตและเรียนหนังสือมาด้วยกัน เมื่อโตขึ้นอุนผู้เชี่ยวชาญการใช้ดาบกลายมาเป็นองครักษ์ผู้ภักดีของพระราชา ส่วยฮอยอมบัณฑิตผู้มากความรู้ก็ถูกห้ามไม่ให้ข้องเกี่ยวกับการเมือง เนื่องจากเขาดำรงตำแหน่งเป็นราชบุตรเขย และองค์ชายยางมยอง พี่ชายต่างมารดาของพระราชาที่ต่อมากลายเป็นศัตรูหัวใจกับพระราชา เขาจึงต้องการแย่งชิงทุกอย่างกลับคืนมา

องค์ชายยางมยอง พระราชา ออยอม และอุน ในวัยเด็ก
แม้ว่าทั้ง 3 คนจะเติบโตและมีหน้าที่รับผิดชอบที่ต่างกัน แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงคือ “มิตรภาพ” ที่พวกเขามีให้กัน โดยเฉพาะความรักระหว่างอุนกับองค์ชายยางมยองที่อยู่คนละฝ่าย คำพูดที่องค์ชายยางมยองมักถามกับอุนทุกครั้งที่พบว่า “มาในฐานะเพื่อน หรือมาตามคำสั่งพระราชา” เมื่ออยู่ในภาระหน้าที่ พวกเขาคือศัตรู แต่เมื่อตัดภาระหน้าที่นั้นออกไป ถึงอย่างไรมิตรภาพก็เป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ความรักของครอบครัว

ฮอยอนอู เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อที่คอยอบรมสั่งสอน มีแม่คอยดูแลเอาใจใส่ และมีพี่ชายคือฮอยอมที่ให้คำปรึกษา เมื่อเกิดเหตุที่ทำให้ครอบครัวนี้ต้องสูญเสียยอนอูไป ความเศร้าโศกเสียใจทำให้ครอบครัวนี้ต้องเผชิญกับความทุกข์อย่างแสนสาหัส พ่อของเขาตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะรู้สึกผิดที่ไม่สามารถปกป้องลูกสาวได้ แม่ก็ใช้ชีวิตอย่างคนสิ้นหวัง ส่วนพี่ชายก็ได้แต่โทษตัวเองที่ไม่ได้อยู่กับน้องในวาระสุดท้าย แต่เมื่อวันหนึ่งที่ยอนอูได้กลับมา ความสุขจึงเกิดขึ้นกับครอบครัวนี้อีกครั้ง

ต่างจากครอบครัวของยุนโบคยอง หรือพระมเหสีของเรื่องที่ดูเหมือนว่าเธอเป็นผู้ครอบครองทุกอย่างแทนยอนอู เธอได้รับตำแหน่งพระชายาจากการสนับสนุนของพ่อที่เป็นขุนนางผู้มีอำนาจในราชสำนัก โบคยองเติบโตมาด้วยการสั่งสอนที่ตรงข้ามกับครอบครัวของยอนอูทุกอย่าง ไม่มีความรักหรือการดูแลเอาใจใส่แต่อย่างใด มีเพียงการสั่งสอนให้ใช้อำนาจและเหยียบย่ำคนที่ต่ำกว่า เมื่อสถานภาพการเป็นพระมเหสีของโบคยองเปลี่ยนไป แทนที่พ่อของเธอจะช่วยเหลือลูกสาวของตัวเอง เขากลับเลือกที่จะละทิ้งลูกสาวแท้ ๆ และไปให้ความสนใจกับผู้ที่จะมีประโยชน์ในอนาคตมากกว่า สุดท้ายแล้วที่โบคยองคิดว่าตนได้แย่งทุกสิ่งทุกอย่างมาจากยอนอู แท้จริงแล้วเธอไม่เคยได้ครอบครองอะไรเลย

เมื่อความจริงเรื่องสาเหตุการตายของยอนอูได้รับการเปิดเผย ปรากฏว่าหนึ่งในผู้มีส่วนร่วมกลับเป็น องค์หญิงมินฮวา น้องสาวแท้ๆ ของพระราชา ในการทำพิธีเพื่อฆ่ายอนอูต้องใช้หญิงสาวพรหมจรรย์ที่มีความปรารถนาแรงกล้าเป็นเครื่องสังเวย เพื่อแลกกับการได้แต่งงานกับฮอยอมชายอันเป็นที่รัก โดยเธอไม่รู้มาก่อนว่าจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมที่นำมาสู่ความสูญเสียมากมาย และหนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังการฆ่ายอนอูอีกคนหนึ่งก็คือ พระพันปี ผู้เป็นย่าของพระราชา พระราชาจำเป็นต้องเลือกว่าจะเปิดเผยความจริงเพื่อคืนทุกอย่างให้กับยอนอู หรือปกปิดความจริงเพื่อปกป้องคนในครอบครัว หากเขาเลือกจะปกป้องยอนอู หญิงสาวผู้เป็นรักแรกและรักเดียวในชีวิต เขาก็จะต้องสูญเสียคนในครอบครัวไป ไม่เช่นนั้นเขาก็จะต้องสูญเสียคนรักของเขาเช่นกัน ในฐานะของพระราชาผู้ทรงความยุติธรรม พระราชาอีฮวอนจึงตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าตนจะต้องเจ็บปวดมากก็ตาม

ความรักในเพื่อนมนุษย์

มีอยู่ตอนหนึ่งที่ ซอล เด็กรับใช้ของยอนอูถูกใส่ความว่าขโมยเงินของยุนโบคยอง ซอลจึงถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ ทันทีที่ยอนอูเห็นเช่นนั้น เธอจึงรีบเข้าไปช่วยเหลือและขอโทษแทนเด็กรับใช้ของเธอ แม้ว่ายอนอูจะเกิดในตระกูลชนชั้นสูง แต่เธอก็ไม่เคยแบ่งแยกชนชั้น เธอมองว่าซอลคือเพื่อนคนหนึ่ง เนื่องมาจากพื้นฐานของครอบครัวที่ให้คุณค่ากับมนุษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียม แตกต่างครอบครัวอื่นของโบคยองที่มีแบ่งแยกชนชั้นและปฏิบัติต่อคนที่ชนชั้นต่ำกว่าด้วยการใช้ความรุนแรง

สาเหตุที่ยอนอูได้รับการช่วยเหลือจากธิดาเทพจางนกยอน ทำให้เธอมีชีวิตรอดมาได้ เนื่องจากมาจากครั้งหนึ่งในตอนที่แม่ของยอนอูตั้งครรภ์ เธอได้ช่วยให้ธิดาเทพที่เป็นเพื่อนรักของธิดาเทพจางซึ่งถูกใส่ร้ายและกำลังหลบหนีให้รอดพ้น ก่อนตายธิดาเทพคนนั้นจึงฝากให้ธิดาเทพจางช่วยปกป้องยอนอู เพราะเธอคือดวงจันทร์ที่คอยโอบอุ้มดวงอาทิตย์หรือพระราชา

ความรักคือการเสียสละ

ความรักอีกรูปแบบหนึ่งที่เราประทับใจมากคือ ความรักขององค์ชายยางมยองที่มีต่อยอนอู ไม่ว่าเธอจะเป็นยอนอูหรือวอล องค์ชายยางมยองก็รักเธอจนหมดหัวใจ เขายอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองยอนอู แต่สุดท้ายแล้ว องค์ชายยางมยองก็ยอมเผชิญกับความผิดหวัง เพื่อให้หญิงที่ตนรักได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยและมีความสุข

ซีรีส์เรื่องนี้ก็ยังคงสร้างความประทับใจให้คอซีรีส์ได้เช่นเคย ไหนๆ พระเอกและพระรองคนเก่งอย่างคิมซูฮยอนและจองอิลอูก็เพิ่งเข้ากรมรับใช้ชาติไปได้ไม่นาน ระหว่างรอให้พวกเขากลับมามีผลงานอีกครั้ง เราก็ขอฝากซีรีส์เรื่องนี้ให้คอซีรีส์ทุกคนด้วยนะคะ