6 มังกร กำเนิดโชซอน
ซีรี่ย์เกาหลี,  ดราม่า,  ประวัติศาสตร์

6 มังกร กำเนิดโชซอน

ชื่อเรื่อง: 6 มังกร กำเนิดโชซอน Six Flying Dragons
กำกับ: ชิน คยองซู, ลี จองฮึม
เขียนบท: คิม ยองฮยอน, ปาร์ค ซังยอน (ผู้เขียนบทแดจังกึม)
แนวละคร: อ้างอิงประวัติศาสตร์, การเมือง, แอ็คชั่น

6 มังกร กำเนิดโชซอน (Six Flying Dragons) ซีรีส์ที่ครองใจคนเกาหลี เรตติ้งทะยานสูงสุดเป็นประวัติการณ์ กับพีเรียดฟอร์มยักษ์ที่จะทำให้คุณลุ้นตัวโก่งไปกับเรื่องราวความทะเยอทะยานและกระหายอำนาจของผู้ต้องการเป็นใหญ่ที่สุดแห่งแผ่นดินโชซอน เป็นละครอิงประวัติศาสตร์ที่มีการแต่งแต้มเรื่องราวตามจินตนาการของผู้เขียนบท ซึ่งในที่นี้คือนักเขียนมือทองอย่าง “คิม ยองฮยอน” และ “ปาร์ค ซังยอน” โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้ร่วมกันเขียนบทละครเรื่อง “จอมกษัตริย์ตำนานอักษร (Deep Rooted Tree)” และ “ซอนต็อก มหาราชินีสามแผ่นดิน (Queen Seon Deok)” จึงมีการนำตัวละครหรือเรื่องราวบางส่วนบางตอนที่เกิดขึ้นในละครสองเรื่องดังกล่าวมาอ้างถึงในละครเรื่องนี้ (เช่น ในตอนที่ 32 มีการกล่าวถึง “พีดัม” กับพ่อค้าชาวชินลาผู้มั่งคั่งและกว้างขวางที่ชื่อ “ยอมจง” จากละครซอนต็อก) นอกจากนี้ นักเขียนบททั้งสองยังได้ร่วมกันเขียน ‘เนื้อเพลง’ ประกอบละคร “6 มังกร กำเนิดโชซอน” ที่มีชื่อว่า “มูอีอียา (Is there any difference?)”

6 มังกร กำเนิดโชซอน

เนื้อหาในละครกล่าวถึงเหตุการณ์วุ่นวายตั้งแต่ยุคปลายราชวงศ์โครยอไปจนถึงต้นราชวงศ์โชซอน โดยนำเสนอผ่านเรื่องราวของ 6 ตัวละครที่ร่วมมือกันสถาปนาราชวงศ์ “โชซอน” แต่ภายหลังได้เกิดความขัดแย้งด้านอุดมการณ์และแนวคิดทางการเมืองระหว่าง “ลี บังวอน” กับ “ชอง โดจอน” โดยชอง โดจอนเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยให้บิดาของบังวอน “ลี ซองกเย” (พระเจ้าแทโจ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์โชซอน) ก่อตั้งและสถาปนาอาณาจักรโชซอนได้สำเร็จ ชอง โดจอนต้องการให้เหล่าขุนนางในราชสำนักช่วยกันขับเคลื่อนบ้านเมือง (ทุกเรื่องต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาขุนนาง) ขณะที่บังวอน (ภายหลังคือ “พระเจ้าแทจงแห่งโชซอน”) ต้องการรวบอำนาจในการบริหารบ้านเมืองทั้งหมดไว้ที่พระราชา

นับตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา กลุ่มคนที่มีบทบาทและอำนาจทางการเมืองในโครยอคือ เหล่าขุนนางในราชสำนักซึ่งล้วนเป็นฝ่ายบัณฑิตที่ยึดถือหลักปรัชญาขงจื๊อ ขณะที่ขุนนางฝ่ายทหารซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้รับการศึกษามักถูกขุนนางชั้นผู้ใหญ่ละเลยและดูถูกเหยียดหยาม เป็นเหตุให้ในปี ค.ศ. 1170 กลุ่มขุนนางฝ่ายทหารซึ่งไม่พอใจที่พวกตนถูกมองข้ามได้ทำการยึดอำนาจพระราชาแล้วเข้ามามีบทบาทในราชสำนักแทนเหล่าขุนนางฝ่ายบัณฑิต ส่งผลให้ขุนนางฝ่ายบัณฑิตถูกกวาดล้างและสังหารเป็นจำนวนมาก นับแต่นั้นเป็นต้นมาพระราชาโครยอจึงเป็นเพียงหุ่นเชิดของผู้นำเผด็จการทหาร (“พระเจ้ามยองจง” พระราชาองค์ที่ 19 แห่งราชวงศ์โครยอ ทรงเป็นพระราชาหุ่นเชิดพระองค์แรก) เผด็จการทหารเหล่านี้ครองบ้านครองเมืองสืบต่อกันนานนับร้อยปี จนกระทั่งโครยอยอมจำนนต่อมองโกลราชวงศ์หยวน (จักรพรรดิกุบไลข่าน) อย่างเป็นทางการในปีค.ศ. 1270 (พ.ศ. 1813)

ขณะเป็นประเทศราชของมองโกล ราชวงศ์หยวน โครยอต้องเชื่อมความสัมพันธ์ผ่านการแต่งงานกับชาวมองโกลมาตลอด 80 ปี ด้วยเหตุนี้เหล่าองค์ชายโครยอจึงกลายเป็นราชบุตรเขยของมองโกลราชวงศ์หยวน แม้แต่ราชสำนักโครยอก็ถูกขุนนางที่สนับสนุนมองโกลราชวงศ์หยวนเข้าครอบงำ ในช่วงที่มองโกลราชวงศ์หยวนเริ่มอ่อนแอลง พระเจ้าคงมินได้ขึ้นครองบัลลังก์โครยอในฐานะพระราชาองค์ที่ 31 (นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1351 – 1374) หลังจากนั้นพระองค์ได้ปฏิรูปการเมืองโครยอเสียใหม่โดยทำการกวาดล้างเหล่าขุนนางผู้มีอิทธิพลที่สนับสนุนมองโกล และเปิดโอกาสให้กลุ่มขุนนางฝายบัณฑิต (ซึ่งยึดถือหลักปรัชญาขงจื๊อและเป็นนักปฏิรูป) เข้ามาทำงานรับใช้ราชสำนัก หมายตรวจสอบและคานอำนาจกลุ่มขุนนางเก่าที่สนับสนุนมองโกลราชวงศ์หยวน

ในเวลานั้นกลุ่มขุนนางฝ่ายบัณฑิตได้ก่อตั้งชนชั้นใหม่ทางสังคมที่เรียกว่าชนชั้น “นักวิชาการ” (“ซาแทบู” ซึ่งมาจากคำว่า “ชื่อต้าฟู” ในภาษาจีน) พวกเขาเป็นทั้งบัณฑิตขงจื๊อ ชนชั้นสูง (ยังบัน) และขุนนางในราชสำนัก โดยผู้ที่ใครๆ ต่างรู้จักและให้ความเคารพนับถือ คือ “ชอง โดจอน” (ฉายา “ซัมบง”) และ “ชอง มงจู” (ฉายา “โพอึน”) โดยทั้งคู่เป็นเพื่อนรักกัน นอกจากขุนนางฝ่ายบัณฑิตแล้ว ในยุคนั้นยังมีขุนนางฝ่ายทหารที่มีชื่อเสียงเลื่องลือและช่วยปกป้องบ้านเมืองจากการรุกรานของต่างชาติหลายครั้งหลายครา ได้แก่ แม่ทัพระดับตำนานนามว่า “ชเวยอง” (ช่อง 3 เรียกว่า “แชยัง”) และดาวรุ่งดวงใหม่อย่าง “ลี ซองกเย” โดยทั้งคู่ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทในฐานะขั้วอำนาจใหม่ทางการเมือง

หลังมองโกลราชวงศ์หยวนล่มสลายแล้วมีการสถาปนาราชวงศ์หมิงขึ้นมาแทนที่ในปี ค.ศ. 1368 พระเจ้าคงมินได้หันไปสวามิภักดิ์และส่งเครื่องบรรณาการให้แก่ราชวงศ์หมิง แต่หลังจากพระเจ้าคงมินถูก “ชเว มันเซ็ง” และ “ฮงรยูน” ลอบปลงพระชนม์ขณะทรงพระบรรทม ในปี ค.ศ. 1374 (พ.ศ. 1917) กลุ่มขุนนางเก่าที่สนับสนุนมองโกลนำโดย “ลี อินอิม” (ในละครใช้ชื่อว่า “ลี อินคยอม”) ก็กลับมาเรืองอำนาจอีกครั้งหลังแต่งตั้งองค์ชาย “วังอู” วัย 11 ชันษาขึ้นเป็นพระราชาหุ่นเชิดโดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของพระพันปี (องค์ชายอูหรือ “พระเจ้าอู” เป็นโอรสของนางทาส “ฮัน พันยา”) ปลายปีเดียวกันนั้นทูตของต้าหมิงบังเอิญถูกสังหารในโครยอ ทำให้เกิดความบาดหมางระหว่างสองประเทศ แถมกลุ่มขุนนางเก่ายังพยายามสานสัมพันธ์กับพวกมองโกลด้วยเห็นว่าราชวงศ์หมิงเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตและความมั่งคั่งของพวกตน (ช่วงที่โครยอเป็นอาณานิคมของมองโกลราชวงศ์หยวน ขุนนางกลุ่มนี้สามารถตักตวงผลประโยชน์จากบ้านเมืองได้อย่างเต็มที่) ด้วยเหตุนี้จึงมีแนวโน้มว่าจะเกิดสงครามระหว่างโครยอกับราชวงศ์หมิงในไม่ช้า

เพื่อต่อกรกับกลุ่มขุนนางเก่าที่ต้องการรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับมองโกลและยับยั้งสงคราม เหล่านักวิชาการกับขุนนางฝ่ายทหารเลยต้องหันมาจับมือกัน (ในตอนนั้นมองโกลราชวงศ์หยวนได้ถูก “จูหยวนจาง” (จักรพรรดิหงอู่) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำกบฏโพกผ้าแดง โค่นล้มแล้วสถาปนา “ราชวงศ์หมิง” ขึ้นมาแทน พวกมองโกลจึงหนีขึ้นไปทางเหนือแล้วก่อตั้งราชวงศ์ใหม่ที่มีชื่อว่า “หยวนเหนือ”) นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นและที่มาของเรื่องราวในละคร “6 มังกร กำเนิดโชซอน” (Six Flying Dragons) ดูหนังออนไลน์